หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ว้าว!! ยานอวกาศจากนาซา พบสายแร่บนดาวอังคาร


ว้าว!! ยานอวกาศจากนาซา พบสายแร่บนดาวอังคาร

  • สายแร่ที่ค้นพบบนดาวอังคาร จะมีประโยชน์อย่างไร ต้องไปหาคำตอบ

  • Post : 15 กุมภาพันธ์ 2555 , View : 11,290
  • Tag : นาซ่าสายแร่บนดาวอังคารดาวอังคารการค้นพบโฮมสเตค
  •    วัสดีค่าน้องๆ.... ถ้าพูดถึงดาวอังคาร น้องๆ จะนึกถึงอะไรคะ พี่มิ้นท์จะนึกถึงดาวสีโทนร้อน แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีความเชื่อกันว่าดาวดวงนี้ จะเคยมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ แต่เรื่องจริงจะเป็นอย่างไร นักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์ก็พยายามหาคำตอบด้วยการส่งยานอวกาศนานาชนิดไปสำรวจ 
    เด็กดีดอทคอม :: ว้าว!! ยานอวกาศจากนาซา พบสายแร่บนดาวอังคาร

    ภาพสายแร่บนดาวอังคาร ความยาวประมาณ 18 นิ้ว (45 เซนติเมตร) 

               ซึ่งการสำรวจหลายๆ ครั้ง ก็ได้ข้อพิสูจน์ใหม่ๆ เพียบ เรียกว่าแต่ละอย่างน่าสนใจทั้งนั้น ล่าสุด องค์การนาซ่าก็ได้ค้นพบหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมมาอีกแล้ว จะเป็นอย่างไร ลองไปอ่านกันเลย

               องค์การนาซ่า ได้ส่งยานอวกาศชื่อว่า Mars Exploration Rover Opportunity (มาร์เอกซ์พลอเรชันโรเวอร์ออพพอร์ทูนิตี) ไปยังดาวอังคารเมื่อวันที่ 25 ม.ค.2004 โดยมีหน้าที่หลัก คือ การไปสำรวจพื้นผิวดาวอังคาร ซึ่งตลอด 8 ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ก็ได้ภาพสวยๆ ที่ถ่ายได้จากดาวอังคารไว้ศึกษาจำนวนมาก และล่าสุดยานลำนี้ก็ได้ส่งภาพที่น่าสนใจมาอีกครั้ง ในภาพเป็นก้อนวัตถุสีขาวเป็นทางยาว ซึ่งเป็นสายแร่ที่ได้จากการบันทึกภาพของกล้องที่ติดอยู่บนตัวยาน โดยพบสายแร่นี้ที่บริเวณภูเขาไฟเอ็นดีฟเวอร์ (Endeavour) ค้นพบเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2011 ที่ผ่านมา

              
    แล้วการค้นพบนี้มีประโยชน์ยังไง??
    เด็กดีดอทคอม :: ว้าว!! ยานอวกาศจากนาซา พบสายแร่บนดาวอังคาร

    สายแร่บนดาวอังคาร มีชื่อย่างไม่เป็นทางการว่าโฮมสเตค (Homestake)

              หลังจากเห็นภาพนี้แล้ว นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์ออกมาว่า สายแร่นี้มีธาตุแคลเซียมและกัมมะถันในปริมาณมาก อัตราส่วนที่บ่งบอกว่าเป็นแคลเซียมซัลเฟตบริสุทธิ์ อาจเป็นองค์ประกอบที่เป็นแร่ยิปซัม (Gypsum) ที่พบบนโลก โดยมีสูตรทางเคมีคือ CaSO4·2H2O แร่ยิปซัมถูกจำแนก
    อยู่ในประเภทแร่อโลหะ มีโครงสร้างผลึกแบบระบบโมโนคลินิก

              การค้นพบสายแร่ยิบซัมเป็นเรื่องปกติมากๆ สำหรับโลกของเรา เพราะมีความอุดมสมบูรณ์ แต่เป็นเรื่องที่แปลกมากที่พบบนดาวอังคาร นักวิทยาศาสตร์ให้เหตุผลว่า การเกิดแร่ยิบซัมมีกระบวนการที่ซับซ้อนมาก เริ่มจากธาตุที่เป็นองค์ประกอบพัดผ่านมากับสายน้ำจนเกิดการทับถมและเกิดการตกตะกอน เป็นเวลานานและเกิดการระเหยของน้ำที่สูงมาก ดังนั้น การค้นพบสายแร่นี้ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ได้ความรู้ใหม่ และกระตุ้นให้มีการศึกษาเกี่ยวกับธรณีวิทยาของดาวอังคารอย่างจริงจัง รวมถึงพี่มิ้นท์และน้องๆ ชาว Dek-D.com เองก็ได้ความรู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมบนดาวอังคารมากขึ้นด้วย

    เด็กดีดอทคอม :: ว้าว!! ยานอวกาศจากนาซา พบสายแร่บนดาวอังคาร

              ถึงแม้ว่ายานมาร์เอกซ์พลอเรชันโรเวอร์ออพพอร์ทูนิตีจะอยู่สำรวจบนดาวอังคารมานานแล้ว แต่ก็ยังต้องอยู่เดินหน้าสำรวจต่อไป เพื่อค้นหาแหล่งแร่ที่มีกระบวนการเกิดแบบนี้ต่อไป อีกหน่อยเราอาจจะได้รู้วิวัฒนาการของดาวอังคารด้วยหลักฐานทางธรณีวิทยาก็เป็นได้^^
     
              แม้จะเป็นเรื่องไกลตัว (ไกลมากเลยล่ะ เพราะอยู่ถึงนอกโลก) แต่ก็เป็นความรู้ใหม่ๆ ที่พี่มิ้นท์คิดว่าน้องๆ ควรรู้ไว้บ้างก็ดี เพราะทุกวันนี้เราสนใจแต่เรื่องราวบนโลกไม่ได้แล้ว แม้แต่นักวิทยาศาสตร์เองยังพยายามหาที่อยู่ใหม่ให้กับสิ่งมีชีวิตบนโลกเลย เผื่อวันนึงเราอาจจะได้ไปอยู่บนดาวอังคารจริงๆ ก็ได้ ว่าแล้วก็รีบเก็บตังค์สร้างยานดีกว่า ฮ่าๆ  (เริ่มจิ้นหนักแล้ว แว๊ก!!)

    ขอขอบคุณข้อมูลจากสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) www.narit.or.th/
    รูปภาพจาก
    องค์การนาซ่า www.nasa.gov/

    photojournal.jpl.nasa.gov/catalog/PIA04848



**


รู้ไว้สักนิด


1. เส้นเลือดในร่างกายมนุษย์มีความยาวรวม 62,000 ไมล์ ถ้านำมันมาเรียงต่อกันเป็นทางยาวจะได้ความยาว ถึง 2.5 เท่าของเส้นรอบวงโลก
2. The Great Barrier Reef (แนวปะการังที่ยาวทีสุดในโลกบริเวณออสเตรเลีย) เป็นโครงสร้างสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีความยาวกว่า 2000 กิโลเมตร
3. โอกาสที่โลกจะถูกโจมตีด้วยอุกาบาตขนาดใหญ่ อยู่ที่ 9300 ปีต่อครั้ง
4. ดาวนิวตรอนขนาดเท่าหัวแม่มือมีน้ำหนักกว่า 100 ล้านตัน
5. พายุเฮอริเคนหนึ่งลูกผลิตพลังงานเท่ากับระเบิดขนาด 1 เมกะตันจำนวน 8000 ลูก
6. คาดว่ามีพยาธิปากขอ ซึ่งดูดเลือดเป็นอาหารอยู่ในร่างกายมนุษย์โลกเรา 700 ล้านคน
7. Fred Rompelberg คือผู้ขี่จักรยานด้วยความเร็วที่สุดในโลกด้วยความเร็ว 166.94 ไมล์ต่อชั่วโมง
8. มนุษย์เราสามารถคิดค้นแสงเลเซอร์ที่มีความสว่างกว่าแสงอาทิตย์ 1 ล้านเท่า
9. 65% ของผู้ป่วยออทิสติคส์ เป็นคนถนัดซ้าย
10. Finnish pine tree (ต้นสนชนิดหนึ่งในฟินแลนด์) มีความยาวของรากแต่ละต้นรวมแล้วกว่า 30 ไมล์

เรื่องวิทย์จี๊ดสุดๆ


ในอนาคตมนุษย์จะหายตัวได้ ด้วย "เสื้อล่องหน"

  • เสื้อล่องหนไม่ได้มีแค่ในนิยายอีกต่อไป เมื่อนักวิทยาศาสตร์กำลังทำให้มันเป็นจริง

  • Post : 22 มิถุนายน 2555 , View : 10,077
  • Tag : เสื้อล่องหนวิทยาศาสตร์,



  •               
    สวัสดีค่า^^... ถ้าพูดถึงมนุษย์ล่องหน เราอาจจะนึกไปถึงเรื่องจินตนาการหลุดโลก หายจากตรงนี้ไปโผล่ตรงนู้น หายจากตรงนู้นมาอยู่ตรงนี้(นี่มนุษย์ล่องหนหรือผีกันแน่)พอดูกันแล้ว ก็จะรู้สึกมหัศจรรย์ อยากทำได้แบบนั้นบ้าง แต่ก็ได้แค่คิดค่ะ ไม่มีวันที่จะเป็นจริงแน่นอน ก็แหม...อยู่ดีๆ ใครล่ะจะไปหายตัวได้เนอะ
    แต่ในโลกยุคนี้ จะเรียกว่าฝันเป็นจริง หรือ นวัตกรรมสมัยใหม่ก็แล้วแต่ "การล่องหน" จะสามารถเกิดขึ้นได้จริง โดยไม่ต้องถอดจิต เล่นของ หรือใช้ไสยศาสตร์ใดๆ เพราะทุกอย่างเกิดจากความคิดและหลักการทางวิทยาศาสตร์ เพียงแค่เอาเสื้อหรือผ้าคลุมล่องหนมาคลุมที่ตัว เราก็จะกลายเป็นมนุษย์ล่องหนไปในทันที

                เสื้อคลุมหรือผ้าคลุมที่กำลังพูดถึงอยู่นี้ เป็นงานวิจัยของชาวอังกฤษ ทำขึ้นจากวัสดุชนิดพิเศษที่ได้รับการพัฒนามาเรื่อยๆ เรียกว่า meta-material ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มของวงแหวนโลหะ มีคุณสมบัติที่ไม่ธรรมดามากๆ  คือ มีดัชนีหักเหเป็นลบ ถึงแม้ว่าเราจะมองเห็น meta-material ด้วยตาเปล่าๆ ได้ แต่เมื่อนำไปใช้จริงๆ เรากลับมองไม่เห็นสิ่งที่บดบังเอาไว้ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นหลักการเกี่ยวกับเรื่องแสงทางฟิสิกส์นั่นเอง
      ปกติตามหลักการมองเห็น เราจะมองเห็นสิ่งของก็ต่อเมื่อมีแสงตกกระทบวัตถุและสะท้อนกลับเข้ามาที่ตาเรา แต่วัสดุนี้จะต่างไปจากเดิม ตรงที่จะทำให้แสงรวมถึงคลื่นแม่เหล็ดอื่นๆ ที่ตกลงบนวัสดุนี้หักเหและพุ่งอ้อมผ่านรอบๆ เสื้อคลุมไป ไม่สะท้อนกลับเข้าตาเราเหมือนเดิม ดังนั้นของที่ถูกปิดด้วยวัสดุนี้ ก็เหมือนถูกผ้าคลุมซ่อนเอาไว้ เราจึงไม่เห็นสิ่งของนั้นๆ หากจะเปรียบเทียบการเดินทางของแสงผ่านวัสดุชนิดพิเศษนี้ นักวิจัยได้กล่าวไว้ว่าคลื่นแสงไหลผ่านรอบๆ วัตถุแบบเดียวกับการไหลของน้ำผ่านรอบตอไม้นั่นเอง

                สำหรับประโยชน์ของเจ้าเสื้อล่องหนนี้ ก็ไม่ได้มีไว้ให้ใส่สนุกๆ อย่างที่คิดหรอกนะคะ เพราะเขาสร้างขึ้นมาเพื่อจุดมุ่งหมายในทางการทหารด้วย โดยเมืองนอกส่วนใหญ่ก็วางแผนไว้แล้วว่าหากนวัตกรรมชิ้นนี้สร้างสำเร็จมาเมื่อไหร่ คงจะได้นำมาใช้กับกองทัพ ทั้งเครื่องบินรบ รถถัง เรียกว่าล่องหนกันหมดเลยทีเดียว
                ส่วนตัวพี่มิ้นท์มองว่าเป็นนวัตกรรมที่อึ้ง ทึ่ง และน่าสนใจมาก แต่ว่าถ้าหากน้องๆ หาซื้อตอนนี้ก็คงยังไม่มีหรอกนะคะ และไม่รู้ว่าหากมีจริงๆ จะสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้หรือไม่และที่สำคัญคือ ราคาก็คงอลังการตามผลงานแน่นอน เอาเป็นว่ารอดูและรอชมผลงานของมนุษย์โลกอยู่ตรงนี้ดีกว่า ฮ่าๆ

วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เมื่อเหล่าตัวการ์ตูน กลายมาเป็นเครื่องประดับความสวยงามของรถยนต์ !!?





http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2525065

ตะลึง! ภาพวงแหวนแห่งไฟ...อีก 18 ปี ถึงจะมีให้เห็นอีกครั้ง


ไม่ผิดหวัง...ประชาชนหลายล้านคนทั่วเอเชียต่างเฝ้าดูวงแหวนแห่งไฟหรือสุริยุปราคาเต็มดวงแบบวงแหวน (Annular Solar Ecplise) ที่เกิดจากดวงจันทร์เคลื่อนผ่านดวงอาทิตย์
นักดาราศาสตร์ชาวญี่ปุ่น ระบุว่าไม่ใช่เรื่องปกตินักที่จะเกิดสุริยุปราคาที่สามารถมองเห็นได้ในนครใหญ่ ๆ ของญี่ปุ่น ถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 932 ปี ที่หลายพื้นที่สามารถมองเห็นปรากฏการณ์นี้ นอกจากทวีปเอเชียแล้วปรากฏการณ์นี้จะเคลื่อนผ่านแปซิฟิกและมองเห็นได้ในพื้นที่หลายส่วนทางตะวันตกของสหรัฐ
สุริยุปราคาครั้งสุดท้ายที่ชาวญี่ปุ่นมีโอกาสมองเห็นคือคนที่อาศัยอยู่ที่เกาะโอกินาวาเมื่อ 25 ปีก่อน ส่วนพื้นที่ที่จะได้เห็นปรากฏการณ์นี้อีกในอนาคตคือเกาะฮ็อคไกโดทางตอนเหนือของของประเทศ ในปี 2573 โน่น

http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2525850

ที่มา เนชั่นสุดสัปดาห์ออนไลน์

อึ้ง!! จับใจ ๆ นาฬิกาบนเล็บ.. มีจริงนะเออ

http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2527259
 TIMEX ยี่ห้อนาฬิกาชื่อดังของต่างชาติ ได้ผลิต Timex Nail Timer

เป็นนาฬิกาติดเล็บ คล้ายเล็บปลอมที่หนาไม่ถึง 1 มิลลิเมตร มีหลายสี ดูเวลาได้ จับเวลาได้

มีปุ่ม
สองปุ่มซ่อนอยู่ ตรงส่วนปลายเล็บที่เป็นสีขาว คือปุ่มจับเวลา-ดูเวลาจริง และ ปุ่มปรับ

เวลา แต่ยัง
ไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่าเ
ปลี่ยนแบตฯยังไง หรือ ใช้โซล่าเซล มีหลายสีเหมาะกับวัย

รุ่นกันน้ำด้วย เทห์มากๆๆๆ

เจ๋ง!!

http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2241200

วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2555

หอไอเฟล(อยากไป)


บุญบั้งไฟชาวอิสาน

มีนิทานปรัมปราที่ชาวอีสานเล่าต่อกันว่า  ณ  เมืองอินทะปัตถานคร  มีพญาเอกราชปกครองประชาราษฎร์ด้วยหลักทศพิธราชธรรม  เคารพและบูชาพญาแถนอยู่เสมอ  ต่อมาพระมเหสีมีพระโอรสชื่อพญาคันคาก  มีรูปโฉมอัปลักษณ์ผิวพรรณตะปุ่มตะปั่มคล้ายคางคก  แต่ด้วยความเพียรพยายามปฏิบัติธรรม  เป็นผู้ทรงทศพิธราชธรรมและขึ้นครองราชย์ในเวลาต่อมา  ทำให้บุคลิกภาพแปรเปลี่ยนมีรูปโฉมงดงาม  ประชาชนเคารพยกย่องสรรเสริญ  จนลืมบวงสรวงพญาแถน  ขณะเดียวกัน  ณ  เมืองเชียงเหียน  อันมีพระยาขอมเป็นเจ้าครองนคร  ซึ่งมีธิดาที่สวยงดงามชื่อนางไอ่  เป็นที่หมายปองของท้าวภังคีซึ่งเป็นโอรสของพญานาคแห่งแม่น้ำโขง  แต่ก็ปรากฏเหตุการณ์บางอย่างซึ่งท้างภังคีเสียชีวิตเพราะนางไอ่ทำให้พญานาคโกรธมากและใช้อิทธิฤทธิ์ถล่มเมืองเชียงเหียนจนล่มจม  แม้มีนายผาแดงพานางไอ่ขึ้นนั่งบนหลังมาหลีกหนีจนพ้นอันตราย  แต่พญานาคก็ตามทันและใช้หางตวัดทำร้ายจนนางไอ่เสียชีวิต  ฝ่ายพญาแถนรับรู้เรื่องราวจึงไม่ยอมให้พญานาคขึ้นไปเล่นน้ำในสระโบกขรณีบนฟ้าเช่นเคย  น้ำในสระดังกล่าวจึงนิ่งไม่ล้นหรือกระฉอกลงสู่พื้นดินเช่นเคย  จึงทำให้บังเกิดความแห้งแล้งแก่โลกมนุษย์และสรรพสัตว์  ดังนั้นพญาคันคาก(คางคก) จึงยกทัพไปรบกวนพญาแถนและบังคับให้พญาแถนปฏิบัติเช่นเคยทุก ๆ ปีและทุก ๆ เดือนหก  ซึ่งพญาแถนก็ยินยอมโดยให้พญานาคขึ้นไปเล่นน้ำที่สระโบกขรณีเช่นเคย  โดยมีเงื่อนไขว่าต้องการฝนตกเมืองใดให้พญาคันคากส่งบั้งไฟไปบอกเมื่อนั้น  พญาแถนก็จะปล่อยฝนมาทันทีและตลอดเดือนเพื่อให้เกษตรกรได้ทำนาและเพาะปลูกตามฤดูกาล.......  นิทานข้างต้นนี้จึงเสมือนการตอกย้ำความเชื่อเรื่อง ฟ้า ขวัญ เมือง ของกลุ่มชนลุ่มแม่น้ำโขงโดยเฉพาะชาวอีสาน  ซึ่งจะต้องจัดบุญประเพณีบั้งไฟทุก ๆ ปี  และเป็นที่อัศจรรย์ใจของทุกคนว่าเมื่อจุดบั้งไฟในวันใด  ตอนเย็นของวันนั้นฝนจะตกทุกครั้งไป  เรื่องนี้อาจสรุปได้อีกทางหนึ่งว่าเขม่าควันของลูกไฟดวงใหญ่ที่ทยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอาจไปจับยึดก้อนเมฆจนลอยต่ำลงและกลั่นตัวเป็นหยาดฝน โปรยลงมาตามประสงค์ของผู้มาร่วมบุญประเพณีบั้งไฟดังกล่าว

สูตรเกมส์the sim 3

สูตรเกมเดอะซิมส์3 ภาคเสริม
สูตรโกงเงิน
วิธีใช้สูตร ระหว่างอยู่ในเกม กด shift+ctrl+c จะมีช่องให้พิมพ์สูตรปรากฏขึ้นด้านบน
-ระวังการเว้นวรรค ต้องเว้นให้ถูกต้อง
-อักษรตัวเล็กหรือใหญ่ถือว่าเหมือนกันหมด
-ถ้าไม่มีช่องพิมพ์สูตรปรากฏขึ้น ให้เช็คคีย์บอร์ดว่าอยู่ในภาษาอังกฤษ
และไม่มีโปรแกรมใดๆในเครื่องใช้คีย์ลัดเดียวกันนี้ โดยมากมักเป็นเพราะ CursorXP

บุญซำฮะ


ประวัติของบุญซำฮะ
...มูลเหตุที่ปรากฏเป็นหลักฐานในตำราทางศาสนาเกี่ยวกับการทำบุญซำฮะนี้ มีเรื่องเล่าไว้ในขุททกนิกาย
ธรรมบท เรื่องอัตโนบุพกรรมว่า ในสมัยหนึ่งเมืองไพสาลี ได้เกิดเดือดร้อน เพราะฝนแล้ง ฟ้าฝนไม่ตกต้อง
ตามฤดูกาล เกิดข้าวยากหมากแพง (ทุพภิกขภัย) และเกิดโรคร้ายระบาดรุนแรง ทำให้สัตว์ มีช้าง ม้า วัว
และควาย เป็นต้น และผู้คนล้มตายเป็นอันมาก ทั่วทั้งเมืองเต็มไปด้วยซากศพและขาวโพลนไปด้วยกอง
กระดูก เจ้าผู้ครองเมืองจึงได้ส่งคนไปกราบนิมนต์พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์จำนวน 500 รูป
เสด็จมายังเมืองไพสาลีโดยทางเรือ เพื่อขจัดปัดเป่าหรือชำระเสนียดจรัญไรที่เกิดขึ้นและ บำรุงขวัญ
ประชาชนพสกนิกรของตน
...ครั้นพอเมื่อ พระพุทธเจ้าเสด็จเข้าถึงเขตเมืองไพสาลีก็เกิดฝนตกห่าใหญ่ ภายในเมืองเกิดน้ำท่วมสูงระดับ
หัวเข่าจนถึงเอว น้ำที่ท่วมนั้นกลายเป็นผลดีแก่ชาวไพสาลี โดยน้ำได้พัดพาเอาซากศพของคนและสัตว์
เหล่านั้นลงสู่แม่น้ำแล้ว ไหลออกสู่ทะเลในที่สุด ซึ่งเชื่อว่าเป็นการชำระเมืองให้สะอาดก่อนที่จะมีการเสด็จ
มาถึงของพระพุทธเจ้า อันเป็น การถวายการต้อนรับโดยเทวดาผู้รักษาเมือง
...ในครั้งนั้น พระพุทธเจ้าได้ทำน้ำพุทธมรต์ด้วยรัตนสูตรใส่ในบาตรแล้วรับสั่งให้พระอานนท์นำไปประพรม
จนทั่ว พระนครโรคภัยไข้เจ็บและเสนียดจัญไรทั้งหลายทั้งปวงก็ระงับดับหายไป  ชาวอีสานในสมัยโบราณ
ได้อาศัยความเชื่อนี้ ครั้นเมื่อถึงเดือน 7 ของทุกปีจึงได้พากัน ทำบุญ ชำระบ้านเมืองเป็นประจำสืบมา

ละครพันทาง



          ละครพันทาง เป็นละครแบบผสม ผู้ให้กำเนิดละครพันทางคือ เจ้าพระยามหินทร์ศักดิ์ธำรง (เพ็ง เพ็ญกุล) ท่านเป็นเจ้าของคณะละครมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๔ แต่เพิ่งมาเป็นหลักฐานมั่นคงในรัชกาลที่ ๕ ซึ่งแต่เดิมก็แสดงละครนอก ละครใน ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๕ ท่านไปยุโรปจึงนำแบบละครยุโรปมาปรับปรุงละครนอกของท่าน ให้มีแนวทางที่แปลกออกไป ละครของท่านได้รับความนิยมมากในปลายรัชกาลที่ ๕ และสิ่งที่ท่านได้สร้างให้เกิดในวงการละครของไทย 
ผู้แสดง
          มักนิยมใช้ผู้แสดงชาย และหญิงแสดงตามบทบาทตัวละครที่ปรากฏในเรื่อง

การแต่งกาย
          ไม่แต่งกายตามแบบละครรำทั่วไป แต่จะแต่งกายตามลักษณะเชื้อชาติ เช่น แสดงเกี่ยวกับเรื่องมอญ ก็จะแต่งแบบมอญ แสดงเกี่ยวกับเรื่องพม่า ก็จะแต่งแบบพม่า เป็นต้น

เรื่องที่แสดง
          ส่วนมากดัดแปลงมาจากบทละครนอก เรื่องที่แต่งขึ้นในระยะหลังก็มี เช่น พระอภัยมณี เรื่องที่แต่งขึ้นจากพงศาวดารของไทยเอง และของชาติต่างๆ เช่น จีน แขก มอญ ลาว ได้แก่ เรื่องห้องสิน ตั้งฮั่น สามก๊ก ซุยถัง ราชาธิราช เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องที่ปรับปรุงจากวรรณคดีเก่าแก่ของภาคเหนือ เช่น พระลอ


วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

โขนนั่งราว


โขนโรงนอก หรือโขนนั่งราว  เป็นการแสดงบนโรงมีหลังคา ไม่มีเตียงสำหรับตัวโขนนั่ง แต่มีราวพาดตามส่วนยาวของโรงตรงหน้าฉาก (ม่าน)  มีช่องทางให้ผู้แสดงเดินได้รอบราวแทนเตียง มีการพากย์และเจรจา แต่ไม่มีการร้อง  ปี่พาทย์บรรเลงเพลงหน้าพาทย์ มีปี่พาทย์ ๒ วง เพราะต้องบรรเลงมาก ตั้งหัวโรงท้ายโรง จึงเรียกว่าวงหัวและวงท้าย หรือวงซ้ายและวงขวา  วันก่อนแสดงโขนนั่งราวจะมีการโหมโรง และให้พวกโขนออกมากระทุ้งเส้าตามจังหวะเพลง  พอจบโหมโรงก็แสดงตอนพิราพออกเที่ยวป่า จับสัตว์กินเป็นอาหาร พระรามหลงเข้าสวนพวาทองของพราพ แล้วก็หยุดแสดง พักนอนค้างคืนที่โรงโขน รุ่งขึ้นจึงแสดงตามเรื่องที่เตรียมไว้ จึงเรียกว่า "โขนนอนโรง"

โขนกลางแปลง


โขนกลางแปลง คือ การเล่นโขนบนพื้นดิน ณ กลางสนาม ไม่ต้องสร้างโรงให้เล่น นิยมแสดงตอนยกทัพรบกัน โขนกลางแปลงได้วิวัฒนาการมาจากการเล่นชักนาคดึกดำบรรพ์ เรื่องกวนน้ำอมฤต เรื่องมีอยู่ว่า เทวดาและอสูรใคร่จะเป็นอมตะ จึงไปทูลพระนารายณ์ พระนารายณ์จึงแนะนำให้กวนน้ำอมฤต โดยใช้เขามนทคิรีเป็นไม้กวน เอาพระยาวาสุกรีเป็นเชือกพันรอบเขา เทวดาชักทางหาง หมุนเขาไปมา พระยาวาสุกรีพ่นพิษออกมา  พระนารายณ์เชิญให้พระอิศวรดื่มพิษนั้นเสีย พระอิศวรจึงมีศอสีนิลเพราะพิษไหม้  ครั้นกวนต่อไป เขามนทคิรีทะลุลงไปใต้โลก พระนารายณ์จึงอวตารเป็นเต่าไปรองรับเขามนทคิรีไว้  ครั้นได้น้ำอมฤตแล้ว เทวดาและอสูรแย่งชิงน้ำอมฤตกันจนเกิดสงคราม พระนารายณ์จึงนำน้ำอมฤตไปเสีย พวกอสูรไม่ได้ดื่มน้ำอมฤตก็ตายในที่รบเป็นอันมาก เทวดาจึงเป็นใหญ่ในสวรรค์  พระนารายณ์เมื่อได้น้ำอมฤตไปแล้ว ก็แบ่งน้ำอมฤตให้เทวดาและอสูรดื่ม พระนารายณ์แปลงเป็นนางงามรินน้ำอมฤตให้เทวดา แต่รินน้ำธรรมดาให้อสูร  ฝ่ายราหูเป็นพี่น้องกับพระอาทิตย์และพระจันทร์แต่ราหูเป็อสูร  ราหูเห็นเทวดาสดชื่นแข็งแรงเมื่อได้ดื่มน้ำอมฤต แต่อสูรยังคงอ่อนเพลียอยู่ เห็นผิดสังเกต จึงแปลงเป็นเทวดาไปปะปนอยู่ในหมู่เทวดา จึงพลอยได้ดื่มน้ำอมฤตด้วย  พระอาทิตย์และพระจันทร์จึงแอบบอกพระนารายณ์ พระนารายณ์โกรธมากที่ราหูตบตาพระองค์ จึงขว้างจักรไปตัดกลางตัวราหู ร่างกายท่อนบนได้รับน้ำอมฤตก็เป็นอมตะ แต่ร่างกายท่อนล่างตายไป  ราหูจึงเป็นยักษ์มีกายครึ่งท่อน  ราหูโกรธและอาฆาตพระอาทิตย์และพระจันทร์มาก พบที่ไหนก็อมทันที  เกิดเป็นราหูอมจันทร์หรือจันทรคราสและสุริยคราส  ต่อมาเมื่อพระพุทธเจ้ามาเทศนาให้ราหูเลิกพยาบาทจองเวร ราหูจึงได้คลายพระอาทิตย์หรือพระจันทร์ออก
        การเล่นชักนาคดึกดำบรรพ์ เล่นในพิธีอินทราภิเษก มีปรากฏในกฎมณเฑียรบาลสมัยกรุงศรีอยุธยา  โขนกลางแปลงนำวิธีการแสดงคือการจัดกระบวนทัพ การเต้นประกอบหน้าพาทย์ มาจากการเล่นชักนาคดึกดำบรรพ์ แต่เปลี่ยนมาเล่นเรื่องรามเกียรติ์ และเล่นตอนฝ่ายยักษ์และฝ่ายพระรามยกทัพรบกัน  จึงมีการเต้นประกอบหน้าพาทย์ และอาจมีบทพาทย์และเจรจาบ้างแต่ไม่มีบทร้อง

rueangrit


วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2555

รักหนึ่งคำจดจำตลอดไป


$$



นัดกับนัด


love


ไปเที่ยวกันๆๆ


RITZ


โตโน่ ริท กัน


RFC





รักหนึ่งคำจดจำตลอดไป

เรืองฤทธิ์^^


^^



^^

วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555

การศึกษากับเด็กร.ร.อำนาจเจริญ


การศึกษากับเด็กนักเรียน ร.ร.อำนาจเจริญทั้งนักเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายทุกคน จะมีการเรียนที่มีความสนุกสนานมากๆ มีทั้งนักเรียนที่เดินเรียนไปยังห้องแต่ละวิชา และก็มีนักเรียนที่มีห้องประจำเป็นของห้องตนเองด้วย

วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2555